วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

เข้าค่าย ร.ด. ปี 3 ณ เขาชนไก่ อีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตที่ไม่มีวันลืม


.ในวันที่ 19 มกราคม เป็น วันที่อีเพนได้ไปเยือนค่ายเขาชนไก่อีกครั้ง ซึ่งเคยไปฝึกตอนปี 2 มาแล้วซึ่งครั้งนี้ ปี3 ไป5วัน ฝึกหนักกว่าเดิม โหดกว่าเดิม เยอะกว่าเดิม 5 วัน กับประสบการณ์ชีวิตนักศึกษาวิชาทหารที่ไม่มีทางลืมได้ เป็นยังไงนั้น โปรดกดมาอ่าน...

ปล.คือว่าเป็นคนที่จำอะไรไม่ค่อยเก่ง ก็เลยจะเล่า พอสังเขปไม่ละเอียดมากมายมาก

ในวันที่ 19 มกราคม เวลา 4.00 น. เป็นเวลาที่อีเพนต้องตื่น เพื่อเตรียมไปค่าย ร.ด. ซึ่งกระเป๋าได้จัดตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม แล้ว ซึ่งก่อนหน้าจะไป ค่าย อีเพนก็ได้ไปสอบสัมภาษณ์สถาบัน ไทย-ญี่ปุ่น และ ได้เที่ยวกับ โตโต้ ไปกินเนื้อย่างที่ ซีคอน ศรีนครินทร์

ไปซีคอนศรีนครินทร์แล้วรู้สึกใจหาย สถานที่นี้มีความทรงจำดีๆเยอะ ;w;

ออกจากบ้านและไปถึงโรงเรียน ซึ่งนัดกับเพื่อนไว้หน้าโรงเรียน 4.30 น. ซึ่งก็นั่งรถแท็กซี่ไป วึ่งแท็กซี่ไม่ค่อยชำนาญทางซะเท่าไหร่ และ กลัว ม็อบ เมื่อไปแถวสนามหลวง ก็ให้เราลง ขึ้นรถตุ๊กๆ ไป วึ่งอยากบอกว่า สุดยอดมาก หนาวมาก 555+


ในที่สุดก็ถึงสวนเจ้าเชตุ ซึ่ง รีบลง รีบจ่าย รีบวิ่ง ซึ่ง ถึงสายกว่าคนอื่นจริงๆ ทำให้ได้นั่งรถคันสุดท้าย ซึ่งโคตร VIP มี ปี 3 นั่งแค่ 20 คน ซึ่ง ครูเลยเอาปี 2 มาเสริม 25 คน อยากบอกว่าอากาศหนาวมาก เลยให้เอาแขนเสื้อลง

ก็ขึ้นรถก็หลับมั้งตื่นมั้ง และได้ไปอุทยาน สงครามลาดหญ้าก่อน ก็ได้ฟังคำบรรยาย และ ได้มาถึงค่ายก็ให้ ปี 2 ลง แล้วก็มี ปี3 นานาชาติ ติด รถมาด้วย

พอถึงค่าย ก็เอากระเป๋าไปเก็บแล้วก็ ได้ไปสนามยิงปืน ซึ่ง ไปเช็คอะไรต่างๆนาๆ อีเพนได้โดนตัดผมแบบงงๆด้วย แบบว่า ทำไมคนข้างหน้าก็ทรงเดียวกันทำไมไม่โดน แต่เรากลับ โดน เซ็งมาก ทรงผมกลายเป็นทรงขัดใจแม่เลยทีเดียว และก็ได้ซ้อมยิงปืน ได้ซือ Ear Plug ที่เอาไว้กันเสียงปืน


ถึงตอนเย็นก็ได้เดินกลับมากองพันแล้วก็จัดเตรียมเต๊นต่างๆ ได้นอนกับหัวหน้าหมวด เต๊น A 100 
ก็ได้นอน โดย วันแรกไม่ได้อาบน้ำหรอก



พึ่งมาฟังเพลงนี้แล้วได้อารมณ์สุดๆก็ตอนนี้

พอถึงวันสองก็ตื่นแต่เช้าเพื่อไปยิงปืน ซึ่งอากาศ เย็นมากๆๆ  9 องศาเลยทีเดียว พูดออกมาเป็นไอ และได้ยิง ปืน M 16  ซึ่งได้ทำหน้าที่ ชูธงด้วย และ โดน ครู ตบไป2ที เพราะลก 55+ แต่ครูตอนยิงปืนโหดมาก บ่นตลอด ใครผิดตบ ตบ 
เพนยิงโดนไม่กี่นัดเอง 55+ แบบว่ากากสุดๆ พอยิงเสร็จก็ได้ เดินขึ้นเขาชนไก่เพื่อไปไหว้ รัชกาลที่ 1





ข้างบนสวยมากกก บรรยากาศดี

อีเพนหัวเกรียน

เดินขึ้นเขาชนไก่ ลำบากตรงที่มันชันมากๆๆๆๆ แต่มีความสุขในการเดินเพราะวิวสวย ได้ถ่ายรูป บลาๆ
เมื่อขึ้นไปข้างบนก็ไหว้ รัชกาลที่ 1 และ ไหว้พระ ที่อยู่ตรง ฐานเจดีย์ ซึ่งได้กำลังใจขึ้นเยอะเลย
ตอนลงลำบากมากกว่า เพราะมันชัน แล้วแบบว่าลงแล้วเจ็บเท้ามาก ;w; แต่ไม่เหนื่อยเท่าตอนขึ้นแน่นอน

หลังจากนั้นก็กลับไปกองพัน และก็ได้เดินไปลานกิจกรรม ซึ่งจะมีนันทนาการตอนกลางคืน ซึ่งก็เป็นการบรรยาย เกี่ยวกับ ร.ด. แล้วก็มีการให้ นศท. ออกมาร้องเพลง คนที่ไปร้องเพลงก็โคตรบิ้วเหลือเกิน รู้สึกเพลงแรกจะเป็นเพลง พลังรัก ซึ่งมันส์มาก และ เพลงของบอดี้สแลม ซึ่งจำชื่อไม่ได้แล้ว แล้วก็มีเพลง บางระจัน แล้วก็ร้องเพลงของเสกโลโซ ซึ่งจำชื่อเพลงแรกที่ร้องไมไ่ด้ แต่เพลงสอง ร้องเราและนาย

มันส์มากกกกกก


ซึ่งเสร็จก็ได้กลับไปที่กองพันและได้อาบน้ำ

พอถึงวันที่ 3 : อากาศครั้งนี้ไม่ค่อยเย็นเหมือนเช้าวันแรก  ประมาณ 13 องศา  ได้เดินทางไปป่าหรือฐาน 32 เพื่อไปฝึก เกี่ยวกับ หมู่ปืนเล็ก มั้งครับ ครั้งนี้ ได้เจอ จ่าเทวดา ซูปเปอร์ไซย่า โอ้วแม่ย่ะ 5555+ แบบว่าเป็นทหารที่ฮาและบ้ามากๆ และ ก็ได้ จัดหมู่ปืนเล็กและได้ เข้าทำการ ระยะสั้นๆ ซึ่งมีคลานมีหมอบและลอดลวดหนามแต่สบายมากเพราะมันยังเด็กๆอยู่  สนุกมากเลยโอ้วแม่ย่ะ ~ 
แล้วก็ได้พรางหน้าและได้เพื่อนใหม่เป็นเด็กนานาชาติ [พลัดของเพน มีโรงเรียนนานาชาติเยอะมาก] 
ซึ่งเด็กนานาชาติคนนี้เป็นลูกครึ่งจีน พูดไทยได้ แต่อ่านและเขียนไทยไม่ได้ มีแฟนอยู่ นอเวย์ และยังบอกว่า ชอบผู้หญิงนมใหญ่ๆ 555+ บอกว่าถ้ามองผู้หญิงจะมองที่นมก่อน 555+ หน้าตาดีนะ คารมณ์ก็ดี

และตอนเย็นก็ได้ทำอาหารกินกันเอง ซึ่งก่อนจะได้ไปทำอาหารก็ไปเข้าบรรยายเกี่ยวกับการเอาตัวรอดในป่า ซึ่งเฮฮา สนุกสนานมากๆ และได้ไปทำอาหาร ซึ่งลำบากตอนหุ้งข้าวมากๆ ต้องคอยหาฟืนมาตลอด ก็มีพวกที่ยืนดูเฉยๆก็มี ได้ ไก่ ได้หมู และได้พวก ใบหัวระพา ต้นหอมซอย และก็พริก และมะนาวมาก ก็เลยทำหมู อะไรมะนาวเนี้ยแหละ ไก่ก็ต้ม ทำมั่วมากๆๆ คือเอาให้แดรกได้ก็พอ 55



ซึ่งพอชิมหมูมะนาวแล้วมันจืดมากๆๆๆ เลยได้ไปเอาน้ำปลามาซึ่งพึ่งรู้ทีหลังว่ามีน้ำปลา ก้เอามาปรุงก็ พอมีรสชาติขึ้น ไก่ก็ต้มสุก กินกับน้ำปลา ข้าวคลุกน้ำปลา ข้าวก็แฉะๆ แต่ก็ออกมาสวยมาก มันรู้สึกอร่อยนะ อาหารที่ร่วมมือกันทำ ถึงจะไม่อิ่มก็เถอะ
และสุดท้าย ก็ วุ่นวายกับการล้างภาชนะ เสร็จแล้ว ตกดึก ก็ได้เดินกลางคืน 
เราก็สลับกลุ่ม ให้เป็นโรงเรียนเดียวกัน และเดินกลางคืน ครั้งนี้ ไม่น่าหลงเพราะมี คนประจำจุดถี่มากๆ ทำให้ไม่ค่อยได้ทำอะไรพิเรนๆ เหมือน ปี 2 
พอจบการเดินกลางคืน ก็ง่วงมากๆ ก็ได้ไปนอนในเต๊นในป่า ซึ่ง กากมาก มีต้นไม้เต็มเต้นไปหมด ต้องปูผ้าปูทับ ซึ่งนอนแล้วเจ็บหลังมาก

พอถึงวันที่ 4  โอ้ว พระเจ้า วันนรกมาเยือน ได้ตื่นแต่เช้า อากาศหนาว อยู่ ต้องเดินทางไปฐาน 33 ไกลมาก ต้องเอากระเป๋าไปด้วย หนัก ;w; [หนักของ เอาของเสื้อผ้าไปเยอะ แต่ไม่ค่อยได้ใช้] 
ฐาน 33 มี จ่านรก รออยู่ขอรับ จ่านรกที่ รุ่นพี่หลายคนเล่าต่อกันมา เราได้มาสัมผัส ความ นรก ของแกถึงที่แล้วครับ!!

ไปถึง ฐาน 33 ก็ โดน แดกเพื่อเตรียมพร้อมกับจ่านรกกันก่อนเลย ให้ หมอบ ลุก หมอบ ลุก แล้วก็ ทา V เชฟ เมื่อ จ่านรกมาถึง แก ขับ บิ๊กไบท์ Honda Phantom มาเลยทีเดียว แล้วก็ขึ้นแท่นพูด

จ่านรก


เสียงแกแหบมากกกก แล้วแบบว่า มาถึง สั่ง ให้หมอบลุก หมอบลุก ทำท่าแคงกาลูเพื่อสร้างหมอกฝุ่น [อย่างโหด แดรก ดินไปเยอะมาก ] แล้วแกก็ แซว โรงเรียน ธัญบุรีของเรา แก บอกมีแฟนอยู่โรงเรียนนี้ แล้วให้เราท้ายแล้วให้เราวิดพื้น แบบว่าเหนื่อยมาก แล้วก็ให้คลาน สูง คลานต่ำ คลานเหงยหน้า กลิ้ง สารพัดท่า หลายครั้งๆๆๆๆ แบบว่า เหนื่อยโคตรๆ ทรมานมาก ฝุ่นเยอะ คนข้างหน้าก็ช้า กระติกน้ำก็อุปสักจริงๆ โดนปืนคนอื่น ฟาดไปหลายครั้ง แต่อยากบอกว่าสนุกมาก เราซาดิสซ์ ชอบ 555+ 

แล้วก็ได้ไป ฝึกการตั้งรับ ในช่วงเช้า ซึ่ง สบายมากการตั้งรับ ได้นั่งรออยู่ในหลุมนาน เลยได้โอกาศถ่ายรูป

ในหลุม

ได้อยู่กับพี่จักร อีเพนก็โล่งใจ

พี่จักรเตรียมพร้อมตลอด


เห็นข้าศึกไหม กิกิ


เมื่อเสร็จแล้วก็พักกินข้าว แล้ว มาฝึกการรุกในช่วง บ่าย ได้เจอกับจ่านรกกับจ่า AV 555+ จ่า AV แกชอบพูดถึง AV มากๆ ใจดีๆ ให้นอนพักผ่อน สบาย~ 
แต่เมื่อไปฝึกการรุก โอ้ว นรก มาเยือน เหนือย กับการคลานมากๆ คือเราคลานช้าตลอด ได้กลิ้งอยู่นะ แต่ก็ผ่านมันมาได้ ตอนต้องทำเสียงยิงปืน เราก็ ปังๆๆๆ!!! แบบสุดเสียงเลย เหมือนคนบ้าจริงๆตอนนั้น

พอตอนเย็น ก็ฝึกการถอนกำลัง ซึ่ง ครูฝึกในฐานนี้ ใจดีมากๆๆๆ แกขี้เกียจสอนเลยให้เรานอนพักผ่อนดูพระอาทิตย์ตกดิน พอกลับก็มารวมตัวเพื่อกลับไปยังเขื่อนและ เคลื่อนที่กลับกองพัน
เดินกลับ ตอนกลางคืนสนุกมากๆ และ เหนื่อย 555+ เมื่อถึงเขื่อ จ่านรก ก็บอกลา และ ขึ้นรถบิ๊กไบท์ ที่จอดอยู่ตรงกลาง และสตาร์ทขี่กลับไปอย่างเท่  ครูฝึกกองพันเรานี้ บอกว่า เหี้ยคิดว่าตัวเองเป็นโจวฉิงฉือ รึไงฟ่ะ มีแต่ไขมันกับเบาหวาน 555+

เมื่อถึงวันที่ 5 วันที่ รอคอย 

วันกลับบ้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!

ก็ได้เตรียมกระเป๋าที่จัดเมื่อคืน และได้เดินทางไป โดดหออออออออ!




พูดด้วยความสัตย์จริง อีเพน ไม่ได้โดดครัฟ!!  เพราะเขาจำกัดคน ด้วย เราเลยได้่แค่ซื้อปีกและ นั่งรอไปฐาน เดิน บนเชือก



ฐานนี้ได้ไต่เชือกเส้นเดียวครับ แต่เป็นไต่บนบกนะ 555+ แล้วก็ อีก 2 อันก็ไม่ได้ เข้าร่วมเลยเพราะเวลาเร่งรีบทหารเลยพาไป นิทรรศการเฉลิมพระเกียติ



ซึ่งได้เขียน ถวายพระพรในหลวงและ ลงนามถวายพระพร และเข้าชมนิทรรศการ

เมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็ได้กลับไปกองพันเพื่อทานอาหาร และเข้า พิธีปิด ซึ่ง รอ รถบัสนานมากๆ ทำให้เราไปช้า แต่ก็ดี ไม่ยืนตากแดด นาน 555+ 
เมื่อเสร็จพิธีปิดก็ขึ้นรถ กลับ กรุงเทพ ซึ่ง หลับตลอดทาง ได้หูฟังของโมจิช่วยทำให้ได้ฟังเพลงไปนอนไป 555+ 

เมื่อถึงกรุงเทพ ก็ ทำพิธีปิดอีก แล้วก็นั่งรถบัสเหมากลับบ้าน ซึ่งกว่าจะถึงฟิวเจอร์ที่ นัดกับพ่อแม่ไว้ก็ประมาณ 2 ทุ่ม ถือว่าดึกพอตัว และนั่งกินข้าวกับพ่อแม่น้อง ซึ่งคิดถึงมากๆ 

ซึ่งการเข้าค่าย ร.ด. ครั้งนี้สนุกและเป็นประสบการณ์ชีวิตที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากมาเรียน ศึกษาวิชาทหาร
ได้ตัดหัวเกรียนครั้งสุดท้ายและไม่ต้องเกณฑ์ทหารแล้วดีใจจริงๆ ถ้าถามว่าจะต่อ ปี 4 ไหม?
ตอบเลยว่าไม่ อยากจะฟรีดอม ไม่อยู่ในกฎข้อบังคับแล้ว 


จบแล้ว ร.ด. ปี 3 2556 


ปล.โดนทำโทษบ่อยมากๆๆๆเพราะไอ้โรงเรียน ทปร.ราชวิทยาลัย คือคุยเก่งมากๆๆไม่มีความเกรงใจไม่มีมารยาทเลย

ปล2. มีตุ๊ดนะ มีตุ๊ดมีนมหน้าหวานด้วย แต่คือไม่แรดออกนอกหน้า

ปล3.นับวันกลับบ้านทุกวัน

ปล.4 วันสุดท้ายหนาวสุดๆๆ 6 องศา

ปล5. ไม่ดำนะ เพราะ ใส่แขนยาว ฮ่าๆ แต่คอ ดำ หน้าไม่ค่อยดำ เฮ



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น